วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

แคลเซียม แป้ง น้ำตาลและไขมัน

สวัสดีครับ

วันนี้ฟังรายการวิทยุเกี่ยวกับสุขภาพ เห็นว่าเป็นความรู้ที่มีประโยชน์ก็เลยเอามาฝากกันครับ เป็นรายการสนทนากับคุณหมอซึ่งจัดทุกเช้านะครับ เรื่องที่จะเอามาเล่าก็มีอยู่ว่า ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องไปกินแคลเซียมเสริมเลยนะครับ เรื่องของกระดูกพรุนเป็นปัญหาสุขภาพอันหนึ่งก็จริง แต่ในการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว ผู้สูงอายุควรระวังเรื่องการหกล้มหรือบาดเจ็บมากกว่าที่จะมัวไปห่วงแต่เรื่องกระดูกพรุนครับ และควรจะได้ออกกำลังกายบ้าง อย่างเช่นได้เดินตากแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าเป็นต้น เพราะนอกจากจะได้การสร้างวิตามินดีแล้ว กล้ามเนื้อก็ยังได้ใช้งานด้วย ซึ่งก็จะทำให้การยึดเกาะของกล้ามเนื้อกับกระดูกดีขึ้น ร่างกายก็แข็งแรงตามมาด้วย และการใช้แคลเซียมของร่างกายก็จะดีขึ้นไปด้วยอีกต่างหาก

อีกเรื่องนะครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการกินอาหาร และการสะสมไขมันในร่างกาย ปกติแล้วเวลาที่เราหิวมากๆ หรือร่างกายขาดพลังงานอย่างฉับพลันอย่างเช่นคนเป็นเบาหวานนะครับ ในช่วงเวลานั้นเราก็ควรกินพวกน้ำตาล อย่างเช่นขนมหวานหรือน้ำอัดลมครับ เพราะน้ำตาลจะให้พลังงานได้โดยตรงและในเวลาที่รวดเร็วกว่าพวกแป้ง คือน้ำตาลจะให้พลังงานในเวลาประมาณ 30 นาทีครับ ในขณะที่แป้ง เผือก มัน หรือพวกคาร์โบไฮเดรตจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าร่างกายจะได้รับพลังงานจากการย่อยอาหารพวกนี้ครับ

สำหรับการเปลี่ยนแป้งไปเป็นไขมันสะสมในร่างกายในกรณีที่ได้รับมากเกินไป (กินมากเกินความต้องการของร่างกาย) นั้น ขั้นตอนแรกแป้งจะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสก่อนครับ และถ้าร่างกายใช้ไม่หมดก็จะเปลี่ยนไปเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น หน้าท้องเป็นต้นครับ ดังนั้นถ้าไม่อยากลงพุงมากๆก็คงต้องทานพวกแป้งและของหวานๆให้น้อยลงนะครับ อีกอย่างที่จำเป็นก็คือถ้าเราไม่อยากให้มันสะสมเป็นส่วนเกินเราก็ต้องใช้มันให้หมดก็คือต้องออกกำลังกายนั่นเองครับผม ไม่ยากใช่ไหมครับ ก็ตรงไปตรงมานะครับไม่มีอะไรซับซ้อนเลย

แถมอีกนิดสำหรับเรื่องกล้วยนะครับ กล้วยน้ำว้าปกติแล้วจะมีไฟเบอร์ที่ละลายในน้ำมากกว่ากล้วยอื่นๆนะครับ มากกว่ากล้วยหอมด้วย และย่อยง่ายกว่ากล้วยหอม ดังนั้นถ้าเลือกได้ก็ทานกล้วยน้ำว้าดีกว่า แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องจำเป็นหรอกครับ ผมว่าใครชอบอะไรก็ทานไปเลย มีประโยชน์ทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ว่ากล้วยหอมมันสวยกว่านะครับ ลูกยาว สีเหลืองสด...สวยมาก แต่ผมชอบรสชาติกล้วยน้ำว้ามากกว่า กล้วยนี่จัดว่าเป็นอาหารที่ใช้เวลาย่อยปานกลางครับ คือให้พลังงานเร็วกว่าพวกข้าว แป้งต่างๆ แต่ก็ช้ากว่าพวกผลไม้อื่นๆ แอปเปิ้ลก็เช่นเดียวกับกล้วย คือให้พลังงานออกมาช้ากว่าผลไม้อื่นๆเช่นกัน ก็เลือกเอาตามสบายนะครับ ชอบแบบไหน ก็ทานแบบนั้น ทุกอย่างมีประโยชน์ทั้งนั้นแหละครับ

สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น