วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

เราก็อยู่กับโรคอย่างมีความสุขได้เหมือนกันนะ

                                         ภาพดอกเฟื่องฟ้าที่ The Maze Resort เขาใหญ่
สวัสดีตอนเช้าครับ

วันนี้ผมลาพักร้อนครับ ไม่ต้องไปทำงานก็เลยมีโอกาสหาข้อมูลมาเขียนให้อ่านกันอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ผมหายไปนานเหมือนกัน รู้ตัวดีครับว่าขี้เกียจไปหน่อย ใจจริงแล้วอยากหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้อ่านกันอยู่เรื่อยๆและต่อเนื่องเหมือนกันครับ แต่เพราะว่าโรคนี้ถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มียารักษา ยังต้องหาทางกันต่อไป ข้อมูลที่พอจะหาได้ก็จะเป็นพวกการศึกษาวิจัยกันซะเป็นส่วนใหญ่ และทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศัพท์และความรู้ทางเทคนิกหรือทางการแพทย์ซะด้วย ซึ่งผมก็ไม่ถนัดอีกนั่นแหละครับ หลายๆครั้งก็เลยต้องว่างไป ไม่มีอะไรมาเขียนกัน

สำหรับวันนี้ก็มีเรื่องธรรมดาเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวสำหรับคนที่เป็นโรคนี้น่ะครับ เคยเขียนไปเมื่อนานมาแล้ว คราวนี้ก็แค่เอามาทบทวนกันอีกครั้งครับ เรื่องพวกนี้เอามาคุยกันบ่อยๆที่จริงก็ดีเหมือนกัน มีแต่ประโยชน์ครับ ไม่มีโทษครับ รับรอง .. ฮ่าๆ

เค้าบอกว่าโรคนี้ถึงแม้จะยังไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้และเราต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต (อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการค้นพบวิธีการรักษา) แต่เราก็มีวิธีรับมือกับมันได้ครับ นั่นก็คือปรับรูปแบบการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันนั่นเองครับ ต้องอยู่กับมันอย่างมีความสุขครับ ทำได้โดยการปรับตัวนิดหน่อยครับ คำแนะนำหลักก็คือ ต้องทำร่างกาย (physical) จิตใจ (mental) และวิญญาณ (spiritual)ให้แข็งแรงครับ จิตใจกับวิญญาณมันแยกกันนะครับ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน ถ้าเราเป็นโรคทางจิตใจ เราคงต้องไปหาหมอโรคประสาทครับ แต่โรคทางวิญญาณนั้นต้องใช้ธรรมะเท่านั้นในการรักษา ซึ่งธรรมะที่ว่านี้จะเป็นของศาสนาใดก็ได้นะครับ ไม่จำกัด ศาสนาที่ท่านนับถืออยู่นั่นแหละครับ ดีหมดเลย

ทีนี้ทางร่างกายนี้ก็ง่ายครับ (แต่อาจจะทำยากหน่อย) เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ออกกำลังกายไม่ยากหรอกครับ บางคนบอกว่าแค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกายแล้ว อันนั้นก็จริงอยู่ครับ แต่ผมว่าเราควรออกกำลังกายแบบที่มันควรจะเป็นดีกว่านะครับ (เพราะถ้าแค่ขยับนิ้วมันคงไม่ช่วยเท่าไหร่...) เพื่อตัวเราไงล่ะ เช่นเดินเร็วอย่างต่อเนื่องสักวันละ 30 นาทีอะไรอย่างนี้เป็นต้น นอกจากออกกำลังกายแล้ว การกินอาหารก็ต้องมีหลักการด้วย กินเนื้อแดงให้น้อยครับ และกินผักเยอะๆ แต่กินผักเยอะๆนี่หลายๆคนก็ไม่ชอบ ก็เลยเห็นเดี๋ยวนี้มีการหาวิธีเอาผักเข้าร่างกายกันหลากหลายรูปแบบ ทั้งโฆษณาเครื่องดื่มไฟเบอร์ น้ำผักผลไม้ หรือเครื่องปั่นผัก-ผลไม้ ก็มากมายครับ ลองดูก็แล้วกันครับ ว่าชอบแบบไหน แต่สำหรับผมชอบผักต้มจิ้มน้ำพริกครับ อร่อยที่สุดในโลกมนุษย์สวยๆใบนี้เลยทีเดียว ฮ่าๆ (อร่อย มีโปรตีน วิตามิน ไขมันน้อยมาก ได้เส้นใยอาหาร... และอีกสารพัดประโยชน์)

นอกจากนี้ต้องระมัดระวังเรื่องเครื่องดื่มด้วยครับ อย่าดื่มพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากนัก โดยเฉพาะอย่าดื่มเพื่อลืมเธอหรือหนีปัญหาชีวิตครับ อันนี้ไม่ควรทำเด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ช่วยแล้ว ยังทำลายสุขภาพด้วย กำลังใจที่เข้มแข็งและสติปัญญาเท่านั้นที่จะช่วยเราให้ออกจากปัญหาทุกอย่างได้ พวกเครื่องดื่มหวานๆก็ไม่ควรดื่มมากเช่นกันครับ อันนี้ทุกท่านคงทราบกันดี และไม่ควรสูบบุหรี่ด้วย ขับรถก็อย่าประมาท (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอย่างไร แต่เว็บภาษาอังกฤษเค้าเขียนไว้ครับ) และที่สำคัญอย่าลืมหาความรู้เกี่ยวกับการป้องกันมะเร็งอยู่เสมอๆนะครับ อันนี้สำคัญครับเพราะคนที่เป็นโรคนี้มักจะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้ง่าย โดยเฉพาะที่ไต ดังนั้นการทำตัวเองให้มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี อย่างเช่นหลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด มันจัด ปิ้ง ย่างที่โดนควันเยอะๆ อาหารที่ไหม้เกรียม หรือพวกหมักดองอะไรอย่างนี้ครับ ที่จริงทุกท่านก็คงทราบกันดีอยู่แล้ว ยังไงก็อย่าลืมทำด้วยนะครับ ไม่ใช่เพื่อใครหรอกครับ เพื่อตัวเราและคนที่เรารัก และคนที่รักเราด้วยไงล่ะครับ

แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น