สวัสดีครับ
วันนี้ผมได้รับหนังสือที่ระลึกเนื่องในงานทอดกฐินสามัคคี วัดสบคือ อำเภอเถิน จังหวัดลำปางของปีนี้มาเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องทศชาติชาดกครับ ผมพลิกไปอ่านแบบไม่ได้เจาะจงว่าจะอ่านตอนใด ก็ไปเจอหน้าของตอนที่ว่าด้วยเรื่องพระเนมิราชครับ ผมยังอ่านไม่จบ แต่มีตอนหนึ่งที่เกิดความประทับใจและอยากเอามาเผยแพร่ต่อ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ครับ
...ขณะที่ทรงปฏิบัติธรรมอยู่นั้นพระเจ้าเนมิราชทรงสงสัยว่า การให้ทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ คือ การรักษาความบริสุทธิ์ ไม่ข้องเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวโลกนั้น อย่างไหนจะประเสริฐกว่ากัน พระอินทร์ได้ทรงทราบถึงความกังขาในพระทัยของพระเจ้าเนมิราช จึงเสด็จจากดาวดึงส์ลงมาปรากฎเฉพาะพระพักตร์พระราชา ตรัสกับพระราชาว่า "หม่อมฉันมาเพื่อแก้ข้อสงสัย ที่ทรงมีพระประสงค์จะทราบว่าระหว่างทานกับการประพฤติพรหมจรรย์ สิ่งใดจะเป็นกุศลยิ่งกว่ากัน หม่อมฉันขอทูลให้ทราบว่า บุคคลได้เกิดในตระกูลกษัตริย์นั้นก็เพราะประพฤติพรหมจรรย์ในขั้นต่ำ บุคคลได้เกิดในเทวโลกก็เพราะได้ประพฤติพรหมจรรย์ขั้นกลาง บุคคลจะถึงความบริสุทธิ์ ก็เพราะประพฤติพรหมจรรย์ขั้นสูงสุด การเป็นพรหมนั้น เป็นได้ยากลำบากยิ่ง ผู้จะประพฤติพรหมจรรย์จะต้องเว้นจากวิถีชีวิตอย่างมนุษย์ปุถุชน ต้องไม่มีเหย้าเรือน ต้องบำเพ็ญธรรมสม่ำเสมอ ดังนั้นการประพฤติพรหมจรรย์จึงทำได้ยากยิ่งกว่าการบริจาคทาน และได้กุศลมากยิ่งกว่าหลายเท่านัก บรรดากษัตริย์ทั้งหลายมักบริจาคทานกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถจะล่วงพ้นจากกิเลสไปได้ แม้จะได้ไปเกิดในที่อันมีแต่ความสนุก ความบันเทิงรื่นรมย์ แต่ก็เปรียบไม่ได้กับความสุขอันเกิดจาก ความสงบอันวิเวก อันจะได้มาก็ด้วยการประพฤติพรหมจรรย์เท่านั้น"...
ทั้งหมดนั้นเป็นตอนหนึ่งนะครับ สำหรับเรื่องราวแบบเต็มๆนั้นถ้าใครสนใจก็ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมเอาเองนะครับ ที่ผมอยากเอามาเล่าสู่กันฟังก็ตรงที่กล่าวถึงความสุขอันเกิดจากความสงบนั่นเองครับ
คำพระท่านว่าไว้ดังนี้ครับ ...นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ... สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น