สวัสดีครับ
อาทิตย์กว่าแล้วนับจากวันที่พ่อปิยะวัจน์ สุขสวัสดิ์ได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อวันพฤหัสที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา วันนี้ผมตั้งใจจะมาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อไว้ ณ ที่นี้เพื่อเป็นการระลึกถึงพ่ออีกครั้งครับ
วันนั้นผมนั่งทำงานอยู่ที่กรุงเทพตามปกติครับ ก่อนเที่ยงวันไม่กี่นาทีก็มีโทรศัพท์แม่เลี้ยงที่เลี้ยงผมมาตั้งแต่ยังเล็กโทรเข้ามาพูดด้วยเสียงสั่นเครือสั้นๆว่า "เป็ด... พ่อเสียแล้ว กลับบ้านด่วนเลย" ผมถามซ้ำด้วยความไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน แต่แม่ก็พูดกลับมาด้วยประโยคเดิมว่า "พ่อเสียแล้วนะ กลับบ้านด่วนเลย" เท่านั้นแหละครับ ผมปิดเครื่องคอมพ์ทันทีบอกหัวหน้าว่าคุณพ่อเสียผมจะขอกลับบ้าน หัวหน้าก็บอกให้รีบกลับไปดูแลทางบ้าน พร้อมบอกให้ขับรถดีๆ ตอนนั้นผมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าผมจะขับรถได้ไหมแต่ก็บอกไปว่าจะขับรถไปเองกับน้องสาว
พ่อเสียชีวิตด้วยอาการสงบครับ เช้าวันนั้นพ่อก็ยังทานอาหารได้นิดหน่อยตามปกติและยังพูดคุยได้เล็กน้อยเหมือนเดิม พวกเราไม่ค่อยแน่ใจนักว่าพ่อเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุใดแต่ท่านก็อายุมากแล้ว อายุเกือบ 83 ปีแล้ว ป่วยเป็นโรคหัวใจ และมีโรคเบาหวานมาหลายปีแล้วเหมือนกัน ช่วงสุดท้ายของชีวิตพ่อ พ่อได้แต่นอนอยู่บนเตียง ขาลีบจึงไม่สามารถเดินได้ แต่ก็สามารถขยับแขนได้ตามปกติและยังมีสติดีอยู่ตลอดเวลา พูดคุยได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ในวันที่พ่อจากไปแล้ว พวกเราลูกๆหลานๆเศร้าเสียใจกันมากและได้มาช่วยงานกันครบทุกคน นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุครบ 42 ปีที่ได้มีโอกาสพบหน้าพี่ๆน้องๆทุกคนซึ่งเป็นเรื่องที่น่าดีใจแต่ก็เป็นเรื่องน่าใจหายที่วันนี้เป็นวันที่พ่อไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ไปตลอดกาล
พ่อได้จากพวกเราไปแล้ว แต่สิ่งที่พ่อได้สอนให้พวกเราเป็นคนดีนั้นจะอยู่ในใจของผมเสมอ ผมยังมีสิ่งที่ต้องการทำให้พ่ออยู่ ถึงแม้พ่อจะไม่ได้เห็นมันด้วยตาของพ่อเอง แต่ผมก็จะพยายามทำต่อให้สำเร็จเพราะผมรู้ว่าพ่อจะรับรู้มันได้อย่างแน่นอน...
สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น