ภาพจาก cancer.osu.edu
สวัสดีครับ
วันนี้มีเรื่องของผู้ป่วยที่เป็นซีสต์ที่ตับอ่อนมาฝากกันครับ แต่จะเน้นไปทั้งกรณีของซีสต์ (หรือถุงน้ำ) และเนื้องอกที่ตับอ่อน (pancreas) กันนะครับ คือมีผู้ป่วยที่เป็นซีสต์ที่ตับอ่อนและแพทย์ได้วินิจฉัยว่าจะต้องผ่าออกเนื่องจากก้อนซีสต์นี้มันไปเบียดเส้นเลือดหลักเส้นหนึ่งเข้า ผู้ป่วยท่านนี้ก็เลยได้เขียนมาสอบถามความเห็นของคนอื่นๆที่มีประสบการณ์ว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งก็มีหลายท่านเข้ามาแชร์กัน ผมก็เอามาเล่าย่อๆได้ดังนี้นะครับ เน้นนิดหนึ่งนะครับว่านี่เป็นเรื่องของผู้ป่วยที่เอามาเล่ากันไม่ใช่เรื่องทางวิชาการที่แพทย์เป็นคนเขียนนะครับ ... เชิญครับ...
ผู้ป่วยเจ้าของกระทู้บอกว่าในระยะสามปีหลังมานี้เธอไปตรวจพบว่ามีซีสต์ที่ตับอ่อนที่โตขึ้นประมาณปีละหนึ่งเซนต์ ซึ่งมันไปเบียดเส้นเลือดใหญ่เส้นหนึ่งเข้าและแพทย์ก็บอกว่าต้องตัดออก (ตัดส่วนหางของมัน ดูที่รูปข้างบนที่เขียนว่า Tail นั่นแหละครับ) รวมทั้งต้องตัดม้าม (Spleen) ออกไปด้วย ตัวเธอเองก็กังวลครับ กลัวไปสารพัดอย่างว่าจะตัดดีหรือเปล่าแล้วอาการมันจะเป็นอย่างไรต่อไป ก็มีคนมาตอบครับ บางคนก็บอกว่าตัวเองได้ตัดม้ามออกไปแล้วเพราะว่ามะเร็งที่ตับอ่อนได้เบียดแทรกผนังของม้ามจนต้องตัดม้ามออกไป แต่ผลกระทบก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ระวังอย่ากินอาหารมากหลังผ่าตัด คอยตรวจระดับฮอร์โมนอินซูลินอยู่เสมอๆ ส่วนการพักฟื้นก็ไม่นานเท่าไหร่
อีกคนบอกว่าตัวเองได้ตัดม้ามออกไปแล้ว และตัดตับอ่อนออกไปเหลือเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติอยู่ แถมไม่เป็นเบาหวานอีกต่างหาก (อันนี้น่าอิจฉาครับ ของผมแค่มีซีสต์ที่ตับอ่อนก็เป็นเบาหวานแล้ว ขนาดยังมีตับอ่อนอยู่เต็มก้อนนะครับเนี่ย)
มีอีกคนครับ อันนี้เจ๋งมาก เค้าบอกว่าคุณแม่มีซีสต์ที่ตับอ่อนมาสามสิบปีแล้ว ยังไม่เป็นอะไรเลย คุณหมอตัดแต่ซีสต์ก้อนที่โตกว่า 3 เซนติเมตรออกไป นอกนั้นก็ไม่ได้ทำอะไร และทางโรงพยาบาลก็บอกว่าสำหรับซีสต์ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นเนื้องอกล่ะก็ควรเอาออก
ครับ อันนี้ก็คงแล้วแต่อาการและการวินิจฉัยของหมอแต่ละคนแล้วล่ะครับ เพราะว่าอาการหรือลักษณะการเกิดของโรคของแต่ละคนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันนี่ครับ คงแล้วแต่กรณีไป
ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น