สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
วันนี้ได้หยุดพักผ่อนอยู่กับบ้านหลังจากที่เดินทางในช่วงสงกรานต์ไปพันกว่าโล เที่ยวบ้าง ทำภารกิจบ้าง ก็สนุกสนานกันไป เหนื่อยกันไปนิดหน่อยครับ ตั้งแต่เริ่มปวดหลัง (สงสัยกระดูกหลังยอกตรงก้นกบ) จนกลับมาบ้านอีกครั้งหกคืนเจ็ดวัน แต่แค่เกือบหายปวดหลังครับ ยังไม่หายดีเลย นั่งเขียนบล็อกไปก็เจ็บๆเป็นระยะๆไป แต่ก็อยากเขียนครับ ไปเที่ยวสงกรานต์คราวนี้มีอะไรให้จดจำเยอะครับ โดยเฉพาะคราวนี้ถึงแม้จะเป็นการเดินทางที่ยาวไกลแต่ไม่เหนื่อยมากเหมือนทุกครั้งที่เดินทางไกลๆเลยครับ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าผมตั้งใจขับรถแบบไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ ขับแบบสบายๆ ไม่เกิน 120 แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ 110 ครับ ถึงแม้จะขับไกลและนานแต่ก็ไม่รู้สึกว่าไกลสักเท่าไร
เช้าวันที่ 14 เมษา 56 ไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านที่สรรคบุรีชัยนาทครับ เช้าวันนั้นคนที่วัดไม่ค่อยมาก ส่วนใหญ่คงจะอยู่ที่บ้านกันเพราะเป็นช่วงสงกรานต์ เข้าใจว่าคนส่วนใหญ่คงอยู่บ้านกับญาติพี่น้องที่กลับบ้านกันในวันสงกรานต์ หลายๆ บ้านก็มักจะทำบุญที่บ้านกันด้วย คนก็เลยบางตา ไม่เต็มศาลาวัดเหมือนงานบุญคราวก่อนๆ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าคนมาทำบุญเยอะพอสมควรเลยครับ ข้าวปลาอาหารที่นำมาถวายพระก็เต็มจนแทบไม่มีที่วางสำรับกันเหมือนเดิม
อากาศที่นั่นในวันนั้นก็ไม่ร้อนมากนัก มีเมฆลอยมาหลอก (ว่าฝนจะตก) อยู่เกือบเต็มท้องฟ้า แต่ก็แค่หลอกๆครับ ฝนก็ไม่ยอมตกสักที แต่นั่นก็พอที่จะทำให้อากาศไม่ร้อนจนเกินไปครับ ยังพอนอนเปลญวนผูกใต้ต้นไม้ได้ในตอนบ่ายแก่ๆที่แดดร่มลมตกบ้างแล้ว
จากบ้านญาติทางภรรยาก็ไปบ้านญาติทางสามีกันที่เพชรบูรณ์กันบ้าง ปีนี้ก็เหมือนเดิม พี่ๆน้องๆ พากันกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่เยอะเหมือนเดิมครับ เช้าวันที่ 15 เราก็ทำการรดน้ำขอพรพ่อแม่ รวมทั้งให้พรพ่อแม่ด้วย ที่จริงแล้วตามธรรมเนียมอาจจะต้องเป็นผู้ใหญ่เท่านั้นที่ให้พรเด็กๆ ลูกๆหลานๆ แต่เราก็อยากที่จะให้พ่อแม่มีความสุขมีอายุยืนด้วย ลูกๆก็เลยอวยพรให้พ่อกับแม่ด้วยครับ ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนๆ อยู่กับพวกเราไปนานๆ เท่าที่จะนานได้ครับ พอไหว้พ่อแม่ที่บ้านเสร็จ ก็ไปไหว้กระดูกแม่ที่ฝังอยู่ที่ป่าช้าในวัดป่าใกล้บ้าน ซึ่งก็ทำเป็นประจำทุกปีครับ เวลาไปไหว้ก็จะซื้อกาแฟเย็นใส่กระติกน้ำแข็งไป เอาดอกไม้ธูปเทียนไปไหว้ด้วย จุดธูปแล้วรอจนธูปไหม้หมดก็ลากลับ ลืมบอกไปว่าแม่ผมมีหลายคนครับ ตอนนี้แม่ที่อยู่ที่บ้านทั้งสองคนเป็นแม่เลี้ยง ซึ่งลูกเลี้ยงทุกๆคนก็รักเหมือนแม่จริงๆ เพราะแม่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆกันอยู่ครับ ส่วนแม่จริงนั้นเสียตอนที่ผมยังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลย ตอนนั้นเพิ่งสามขวบครับ ก็เกือบสี่สิบปีมาแล้ว
จากเพชรบูรณ์ก็ไปมหาสารคามครับ ไปที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไปเยี่ยมที่ศูนย์บรรพชีวินวิทยา ภาควิชาชีววิทยาครับ มีกระดูกไดโนเสาร์และพวกเต่า ปลาโบราณเยอะแยะเลย เราแวะกินขนมจีนเส้นสดกันที่นั่น อร่อยมากครับ มีผักสดแกล้ม แล้วก็มีแกงต่างๆกินกับขนมจีนเยอะแยะเลย ไปอิสานคราวนี้ได้ลองกินแกงผักหวานใส่ไข่มดแดงด้วยครับ ผมอยากลองกินไข่มดแดงอีกสักครั้งหลังจากที่เคยกินครั้งสุดท้ายไปเมื่อตอนเป็นเด็ก รสชาติก็ไม่เหมือนเดิมหรอกครับเพราะว่าอาหารที่เคยกินตอนเป็นเด็กนั้นมันคงเป็นคนละแบบ คงไม่ใช่แกงผักหวานเหมือนคราวนี้ คราวนี้ที่อยากกินเพราะว่าพอนึกถึงตอนเป็นเด็กแล้วมันอร่อยครับ เคยมั้ยครับที่เวลานึกถึงอาหารที่เราเคยกินตอนเป็นเด็กแล้วรู้สึกว่ามันอร่อยทุกอย่างเลย... แค่ไข่ดาวก็อร่อยมากแล้วครับ แต่พอโตขึ้นมาทำไมรสชาติมันไม่เหมือนเดิมก็ไม่รู้...
ออกจากมหาสารคามคราวนี้เดินทางเหนื่อย (นิดหน่อย)เลยครับ เพราะต้องเข้าถนนมิตรภาพมุ่งหน้ามาอำเภอพล แล้วต่อมาที่โคราชเพื่อที่จะไปที่พักรีสอร์ทช่วงต้นๆของถนนธนะรัชต์ทางขึ้นเขาใหญ่ครับ ระยะทางประมาณสามร้อยกิโลครับ ใช้เวลาไปทั้งหมดสิบชั่วโมง รถเยอะมากครับ เยอะมากๆ เพราะเป็นช่วงกลับบ้านหลังสงกรานต์กัน ถึงที่พักเที่ยงคืนครึ่งครับ แต่ยังไงผมก็ยังรู้สึกดีครับ ถึงแม้รถจะติดมากมาย ที่ยังรู้สึกดีก็เพราะว่าทุกคนปลอดภัยและยังสนุกได้กับการเดินทางครับ ที่พักที่เราจองไว้ก็ดีเยี่ยม ตอนที่ไปถึงฝนเพิ่งหยุดตกด้วย ทำให้รู้สึกเย็นสบายมากๆ คืนนั้นเราหลับกันด้วยความรู้สึกผ่อนคลายและหลับง่ายกันทุกคนครับ ฮ่าๆ
ตื่นเช้ามากินอาหารเช้ากันในรีสอร์ทริมลำธาร มีกังหันวิดน้ำอันใหญ่หมุนไปตามแรงน้ำอยู่ตลอดเวลา เสียงนกร้อง บวกกับสายลมที่พัดมาเป็นระยะๆทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากๆเลยเชียวครับ ที่รีสอร์ทยังมีมุมให้นั่งพักสบายๆ ประกอบกับเป็นวันธรรมดาครับ คนก็เลยไม่เยอะ มีคนมาพักอยู่สองสามครอบครัว ก็เลยยิ่งรู้สึกดีครับ บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนมาก เดินเล่นไปก็มีห่านฝูงเล็กๆ สีขาวเดินผ่านไป มีแมลงทั้งด้วงปีกแข็ง มด มีหอยทากและกิ้งก่าอยู่เป็นเพื่อนด้วย... ดีเยี่ยมครับ
วันสุดท้ายของการเดินทางเที่ยวนี้เราไปแวะกันที่ตลาดน้ำกลางดง หรือที่สวนซ่อนศิลป์ครับ ที่นี่เป็นสวนที่มีร้านกาแฟ มีร้านให้ทำกิจกรรมวาดรูป มีร้านไอศกรีม และอีกมากมายให้ชมและให้รับประทานท่ามกลางป่า (แมกไม้) ครับ เดินชมไปกินไปซื้อไปฟังเสียงน้ำไหลไปด้วย เผลอไปแป๊บเดียวหมดไปเลย 4 ชั่วโมงแบบไม่รู้ตัวครับ เที่ยวที่นี่ได้ทั้งเพลิดเพลิน พักผ่อนและได้แรงบันดาลใจด้วยครับ เยี่ยมไปเลย...
กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยและอย่างมีสไตล์ครับ มีสไตล์เพราะว่าทุกคนมีความสุข ได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่ครับ
แล้วพบกันใหม่ครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น