วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
เนื้องอกจาก VHL ฉายรังสีไม่เป็นผล?
nationalgeographic.com
สวัสดีครับ
คราวที่แล้วที่ไปหาหมอเพื่อตัดไหมจากแผลผ่าตัดเนื้องอกในสมองที่ศรีษะและตรวจติดตามรักษาโรค คุณหมอก็ได้พูดคุยและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคนี้ให้ฟังอีกมากมาย โดยสรุปแล้วโรคนี้เกิดขึ้นได้น้อยในจำนวนผู้คนทั้งหมด โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นน้อย ยิ่งทำให้โอกาสที่แพทย์จะได้เจอก็ยิ่งน้อยลงไปอีก และที่จะรู้ว่าเป็นโรคนี้ก็ยิ่งน้อยน้อยลงไปอีกครับ ในเมืองไทยเท่าที่คุณหมอเคยเจอคงจะมีแค่สี่ห้ารายเท่านั้นเอง
สำหรับการรักษาโดยใช้วิธีการยิงแสงเลเซอร์เพราะคิดว่าคงจะลดผลกระทบจากการผ่าตัด คุณหมอก็บอกว่าสำหรับโรคนี้คงจะไม่ได้ผล ดังนั้นคงต้องมาทำการผ่าตัดถ้าคราวหน้ามันเกิดโตขึ้นมาอีก ก็เอาครับ ว่าไงก็ว่ากัน ไม่คนไข้ก็หมอละครับที่ต้องตายจากกันไปข้างหนึ่งก่อน...
วันนี้อากาศดีครับ เพิ่งเข้าพรรษามาได้ไม่กี่วัน ฝนตกปรอยๆมาเป็นระยะๆ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่ดี มีสมองที่แจ่มใส มีสติปัญญาและความกล้าหาญนะครับ
สวัสดีครับ
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
รักษาเนื้องอกในสมองคราวหน้า
สวัสดีครับ
เช้าวันเสาร์ที่อากาศดีอีกครั้งหนึ่ง อีกวันสองวันก็จะเป็นวันพระใหญ่แล้ว วันอาสาฬหบูชากับวันเข้าพรรษาครับ ช่วงนี้เป็นช่วงพักร้อนหลังจากการผ่าตัดสมองไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา ผ่าตัดคราวนี้ใช้เวลาน้อยและเจ็บตัวน้อยครับ แต่เรื่องสำคัญที่ยังคอยรบกวนจิตใจอยู่ก็คือยังมีก้อนเนื้องอกขนาดเล็ก เล็กกว่าเซนติเมตรอยู่อีกหลายก้อนเหลือกระจายอยู่ทั่วสมองน้อยส่วนหลังด้วย เจ้าก้อนเนื้อพวกนี้ตอนนี้ยังไม่มีอะไรรบกวนต่อสมองครับ แต่ในอนาคตไม่แน่เพราะมันคงจะพากันโตขึ้น กลัวครับว่ามันจะพากันโตขึ้นพร้อมๆกัน และคิดดูว่าถ้ามันโตพร้อมๆกันหมดทั้ง 7 ก้อนในสมองในเวลาเดียวกันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่แน่ใจว่าร่างกายจะทนได้แค่ไหนเหมือนกัน ... แต่มันก็ต้องมีทางรักษาครับ
อย่างแรกคือต้องทำการรักษาก่อนที่มันจะโต มันมีวิธีครับที่จะทำการผ่าตัดผ่านกล้องโดยวิธี Microneurosurgery หรือวิธีจุล หรือมีแบบที่เรียกว่า Minimally Invasive Surgery ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดโดยให้มีผลกระทบต่อสมองน้อยที่สุดก็มีครับ ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะกระทำโดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้มีการบาดเจ็บของสมองน้อยที่สุด ดังนั้นการพักฟื้นจึงน้อยตามไปด้วย และการผ่าตัดก็ทำได้รวดเร็วด้วยครับ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเท่าใดกันครับ สำหรับในเมืองไทยแล้วการผ่าตัดโดยวิธีนี้สามารถเข้ารับบริการได้หลายที่เลย เห็นของเอกชนก็มีอยู่หลายที่เหมือนกัน ลองค้นหาทางอินเตอร์เน็ตดูนะครับ ของภาครัฐบาลนั้นผมมั่นใจว่าก็ต้องมีอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เคยลองเหมือนกันครับ
อีกอย่างที่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ก็คือการทำให้เนื้องอกมันยุบของมันไปเอง ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร แต่คุณหมอก็เคยเล่าให้ฟังว่ามีคนไข้ที่มีเนื้องอกในไตที่มันยุบเองได้ สำหรับเรื่องนี้คงต้องแล้วแต่ตัวใครตัวมันมั้งครับว่าจะทำอย่างไร
สวัสดีครับ
เช้าวันเสาร์ที่อากาศดีอีกครั้งหนึ่ง อีกวันสองวันก็จะเป็นวันพระใหญ่แล้ว วันอาสาฬหบูชากับวันเข้าพรรษาครับ ช่วงนี้เป็นช่วงพักร้อนหลังจากการผ่าตัดสมองไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 56 ที่ผ่านมา ผ่าตัดคราวนี้ใช้เวลาน้อยและเจ็บตัวน้อยครับ แต่เรื่องสำคัญที่ยังคอยรบกวนจิตใจอยู่ก็คือยังมีก้อนเนื้องอกขนาดเล็ก เล็กกว่าเซนติเมตรอยู่อีกหลายก้อนเหลือกระจายอยู่ทั่วสมองน้อยส่วนหลังด้วย เจ้าก้อนเนื้อพวกนี้ตอนนี้ยังไม่มีอะไรรบกวนต่อสมองครับ แต่ในอนาคตไม่แน่เพราะมันคงจะพากันโตขึ้น กลัวครับว่ามันจะพากันโตขึ้นพร้อมๆกัน และคิดดูว่าถ้ามันโตพร้อมๆกันหมดทั้ง 7 ก้อนในสมองในเวลาเดียวกันจะเกิดอะไรขึ้น ไม่แน่ใจว่าร่างกายจะทนได้แค่ไหนเหมือนกัน ... แต่มันก็ต้องมีทางรักษาครับ
อย่างแรกคือต้องทำการรักษาก่อนที่มันจะโต มันมีวิธีครับที่จะทำการผ่าตัดผ่านกล้องโดยวิธี Microneurosurgery หรือวิธีจุล หรือมีแบบที่เรียกว่า Minimally Invasive Surgery ซึ่งจะเป็นการผ่าตัดโดยให้มีผลกระทบต่อสมองน้อยที่สุดก็มีครับ ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะกระทำโดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้มีการบาดเจ็บของสมองน้อยที่สุด ดังนั้นการพักฟื้นจึงน้อยตามไปด้วย และการผ่าตัดก็ทำได้รวดเร็วด้วยครับ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ผมไม่ทราบเหมือนกันว่าค่าใช้จ่ายนั้นเป็นเท่าใดกันครับ สำหรับในเมืองไทยแล้วการผ่าตัดโดยวิธีนี้สามารถเข้ารับบริการได้หลายที่เลย เห็นของเอกชนก็มีอยู่หลายที่เหมือนกัน ลองค้นหาทางอินเตอร์เน็ตดูนะครับ ของภาครัฐบาลนั้นผมมั่นใจว่าก็ต้องมีอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เคยลองเหมือนกันครับ
อีกอย่างที่ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ก็คือการทำให้เนื้องอกมันยุบของมันไปเอง ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะทำได้อย่างไร แต่คุณหมอก็เคยเล่าให้ฟังว่ามีคนไข้ที่มีเนื้องอกในไตที่มันยุบเองได้ สำหรับเรื่องนี้คงต้องแล้วแต่ตัวใครตัวมันมั้งครับว่าจะทำอย่างไร
สวัสดีครับ
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ผ่าตัดสมองครั้งที่ 5 อยากให้เป็นครั้งสุดท้าย
สวัสดีครับ
เสียพ่อไปไม่ถึงเดือนผมก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดเอาเนื้องอกในสมองออกอีกเป็นครั้งที่ 5 แล้ว คราวนี้ตรวจเจอเร็วครับ สาเหตุก็มาจากที่รู้สึกมึนๆตื้อๆตรงด้านท้ายทอยอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งมันผิดสังเกตุ คิดว่ามันคงไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา แล้วคนใกล้ชิดก็บอกให้ไปตรวจเผื่อว่าจะมีอะไรผิดปกติ ซึ่งเมื่อไปพบแพทย์ก็ตรวจพบเนื้องอกในสมองหลังจากที่ทำ MRI ทันทีครับ คุณหมอที่วิภาวดีก็นัดผ่าตัดเลยทันทีเหมือนกันซึ่งผมก็ตกลงทันทีอีกเหมือนกันครับ ก็ในเมื่อเจอแล้วว่าตัวการคืออะไรก็คงไม่ต้องรอแล้วมังครับ จัดการได้เลย ก็เลยเข้าห้องผ่าตัดไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 56 ที่ผ่านมาครับ
เนื้องอกที่เอาออกคราวนี้คือก้อนที่อยู่ใกล้กับกระโหลกศรีษะด้านหลังมากที่สุดและเป็นก้อนใหญ่ที่สุดที่ทำให้มีอาการมึนในครั้งนี้ครับ วัดขนาดของเนื้องอกรวมทั้งซีสต์ได้ประมาณสองเซนติเมตร ยังมีที่ยังไม่ได้เอาออกอีกหลายก้อนอยู่เหมือนกันครับ เพราะว่ามีขนาดเล็กและยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำอะไรในตอนนี้ ตำแหน่งที่เป็นอยู่ก็อยู่ในตำแหน่งที่อันตรายกว่าอีกด้วย คงรอดูว่าคุณหมอจะแนะนำอย่างไรต่อไป อาจเฝ้าดูไปก่อนหรืออาจจะมีการทำเลเซอร์ก็ยังไม่ทราบได้
ผมใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาล 5 วันครับ แล้วมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งคุณหมอก็สั่งให้พักต่อไปจนถึงสิ้นเดือน รวมเวลาแล้วก็ประมาณเกือบยี่สิบวันครับ
สำหรับค่าใช้จ่ายในครั้งนี้แสนแปดหมื่นกว่าบาทครับ
เนื่องจากว่ายังไม่มีวิธีการรักษานอกจากผ่าตัด ผมคงหาวิธีหยุดยั้งเจ้าเนื้องอกนี้โดยการทำสมาธิเพื่อจัดการมันต่อไปครับ ถ้าสำเร็จก็คงไม่ต้องผ่าอีกต่อไปครับ
สวัสดีครับ
เสียพ่อไปไม่ถึงเดือนผมก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดเอาเนื้องอกในสมองออกอีกเป็นครั้งที่ 5 แล้ว คราวนี้ตรวจเจอเร็วครับ สาเหตุก็มาจากที่รู้สึกมึนๆตื้อๆตรงด้านท้ายทอยอยู่เป็นระยะๆ ซึ่งมันผิดสังเกตุ คิดว่ามันคงไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา แล้วคนใกล้ชิดก็บอกให้ไปตรวจเผื่อว่าจะมีอะไรผิดปกติ ซึ่งเมื่อไปพบแพทย์ก็ตรวจพบเนื้องอกในสมองหลังจากที่ทำ MRI ทันทีครับ คุณหมอที่วิภาวดีก็นัดผ่าตัดเลยทันทีเหมือนกันซึ่งผมก็ตกลงทันทีอีกเหมือนกันครับ ก็ในเมื่อเจอแล้วว่าตัวการคืออะไรก็คงไม่ต้องรอแล้วมังครับ จัดการได้เลย ก็เลยเข้าห้องผ่าตัดไปเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 56 ที่ผ่านมาครับ
เนื้องอกที่เอาออกคราวนี้คือก้อนที่อยู่ใกล้กับกระโหลกศรีษะด้านหลังมากที่สุดและเป็นก้อนใหญ่ที่สุดที่ทำให้มีอาการมึนในครั้งนี้ครับ วัดขนาดของเนื้องอกรวมทั้งซีสต์ได้ประมาณสองเซนติเมตร ยังมีที่ยังไม่ได้เอาออกอีกหลายก้อนอยู่เหมือนกันครับ เพราะว่ามีขนาดเล็กและยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปทำอะไรในตอนนี้ ตำแหน่งที่เป็นอยู่ก็อยู่ในตำแหน่งที่อันตรายกว่าอีกด้วย คงรอดูว่าคุณหมอจะแนะนำอย่างไรต่อไป อาจเฝ้าดูไปก่อนหรืออาจจะมีการทำเลเซอร์ก็ยังไม่ทราบได้
ผมใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาล 5 วันครับ แล้วมาพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งคุณหมอก็สั่งให้พักต่อไปจนถึงสิ้นเดือน รวมเวลาแล้วก็ประมาณเกือบยี่สิบวันครับ
สำหรับค่าใช้จ่ายในครั้งนี้แสนแปดหมื่นกว่าบาทครับ
เนื่องจากว่ายังไม่มีวิธีการรักษานอกจากผ่าตัด ผมคงหาวิธีหยุดยั้งเจ้าเนื้องอกนี้โดยการทำสมาธิเพื่อจัดการมันต่อไปครับ ถ้าสำเร็จก็คงไม่ต้องผ่าอีกต่อไปครับ
สวัสดีครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)